คนสู้ชีวิตลุงสมาน วัย 62 กับบทบาทลีลาการแสดง แบกสาวน้อยลำซิ่ง ร่วม 50 กก.โชว์ Soft Power กับคณะกลองยาวอิสาณเสียงพิณ วัดพรหมวิหาร บ้านฝายหิน อำเภอศรีบุญเรือง สู้ชีวิตเพื่อภรรยาที่โรครุมเร้ามานานร่วม 20 ปี
เมื่อเร็วๆนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่บ้านเลขที่ 72/1 บ้านฝายหิน ม.6 ต.โนนม่วง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ภายหลังได้ชมลีลาการแสดงพร้อมคณะกลองยาวอิสาณเสียงพิณ ของชุมชนคุณธรรมวัดพรหมวิหาร บ้านฝายหิน ซึ่งนายสมาน นามวงษ์ อายุ 62 ปี เป็นตัวเอกของคณะกลองยาวอิสาน เสียงพิณ ที่ได้แสดงโชว์พลัง Soft Power ในงานอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีคนท้องถิ่น”ผ้าขาวม้าพาดบ่า มาเอาบุญคูณลาน สืบตำนานพระแม่โพสพ”
เมื่อวันที่ 2 มค.67 ภายในวัดพรหมวิหาร บ้านฝายหิน นำโดย พระครูโฆสิตพรหมวิหาร เจ้าอาวาสวัดพรหมวิหาร ซึ่งเป็นประเพณีที่ได้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกให้เด็ก เยาวชน ประชาชนในท้องถิ่นเกิดความตระหนัก และเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และสืบสานมรดกภูมิปัญญาและคุณค่าความหลากหลายทางวัฒนธรรมทั้งที่เป็นวิถีชีวิต ค่านิยมที่ดี และความเป็นไทย
ภายในงานคณะกลองยาวอิสาณเสียงพิณ ได้โชว์ศิลปะการแสดงกลองยาวด้วยลีลาท่าทางการฟ้อนรำตามเสียงดนตรีบรรเลงตามจังหวะและการแต่งกายด้วยผ้าพื้นเมือง ในขณะที่นายสมานฯดาวเต้นที่แบกหุ่นสาวน้อยบนบ่าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สระโพกโยกย้ายไปตามจังหวะของเสียงดนตรี ในท่าทางร่ายรำทั้งเต้นและล้มนอนทั้งมีอุปกรณ์ประกอบและไร้อุปกรณ์ประกอบ พร้อมโชว์ขลุ่ยไพเราะเสนาะอารมณ์
นายสมาน นามวงษ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าตลอดชีวิตร่วม 20 กว่าปีอยู่ในคณะกลองยาวอิสานเสียงพิณ วัดพรหมวิหาร แบบจิตอาสามาโดยตลอด โดยที่พระครูโฆสิตพรหมวิหาร ท่านมีเจตจำนงในการระดมทุนก่อสร้างพระอุโบสถภายในวัดพรหมวิหาร ซึ่งขณะนี้การดำเนินงานไปยังไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ในขณะที่งบประมาณการก่อสร้างรอจากศรัทธาและญาติโยมเท่านั้น และคณะกลองยาวอิสาณเสียงพิณ ก็เป็นเพียงชุดการแสดงที่รับงานจ้างตามจังหวะและโอกาสที่เจ้าภาพจะจ้างไปแสดง ขอเพียงได้มีข้าวปลาอาหารให้คณะกลองยาวทั้งหญิงชาย ร่วม 50 ชีวิตต้องไปแสดงในงานการกุศลตามแต่คณะเจ้าภาพจะว่าจ้าง รายได้จากน้ำพักน้ำแรงของคณะกลองยาว จะนำมาเป็นทุนในการก่อสร้างพระอุโบสถ
สิ่งหนึ่งที่เป็นกำลังใจให้กับนายสมานฯนั้นคือภรรยาของเขาที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานมานานร่วม 20 ปีเช่นเดียวกัน ตัวนายสมานฯไปกับคณะกลองยาวก็ไม่มีค่าตอบแทน เพียงแต่ได้รับจากทริปที่แสดงบนเวทีหรือลานการแสดงกลางแจ้งพอมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ในขณะที่ตัวนายสมานฯเองก็มีความชื่นชอบในการแสดงเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมทุกเพศทุกวัย จนมีแฟนเพจที่ติดตามชมที่ท่านพระครูได้แชร์ในโลกเซียสถึงครึ่งล้านคน นายสมานฯบอกกล่าว
นายสมาน กล่าวทิ้งท้ายว่าชีวิตตนเองยังรักในลีลาการแสดงแบบจิตอาสา ว่างเว้นจากการแสดงบางครั้งบางคราวก็รับจ้างตัดอ้อย ปลูกอ้อย ตามแต่ใครจะว่าจ้าง เพื่อนำรายได้มาแบ่งเบาภาระครอบครัว ถึงแม้นอายุเลยเข้าสู่วัยชราแล้วก็ตาม แต่ใจยังรักและหากจะมีคณะศรัทธาเจ้าภาพจะขอให้ไปสร้างสีสันแห่งความบันเทิง ติดต่อผ่านลูกสาวและลูกสะใภ้ได้ที่หมายเลข 0855 785 661 หรือ 064 486 5532 พอเป็นค่าดูแลรักษาภรรยาที่มีโรครุมเร้าอยู่ในขณะนี้ และหากจะมีผู้ใหญ่ใจดีช่วยเหลือก็ขอขอบพระคุณในน้ำใจของผู้ใหญ่ใจดี